สัมภาษณ์พิเศษ “มัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข” ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์

แนวคิดการทำงาน

ทำงานให้สนุกและมีความสุขในการทำงาน การทำงานจะสนุกถ้าเรามีเป้าหมายที่ชัดเจน เป็นงานที่ ท้าทาย ทีมทำงานมีเป้าหมายตรงกันมันจะสื่อสารง่ายและสนุกที่จะทำงาน

ท่านจุรินทร์เป็นผู้มีประสบการณ์ มีความสุขุม และความหนักแน่น ในขณะเดียวกันก็เป็นคนที่มีเป้าหมายชัดเจน คือ ต้องทำนโยบายทุกอย่างให้ประสบความสำเร็จในเวลาที่รวดเร็ว ดังนั้น เมื่อเรามีผู้นำที่ดี หนักแน่น และมีทักษะ เราก็ทำงานเดินตามได้อย่างมั่นใจและสง่างาม แน่นอนว่าการทำงานย่อมเจอแรงกดดัน ความท้าทายอยู่บ้าง แต่ว่าทั้งหมดมันก็ไม่ใช่เรื่องที่เราจะรับมือไม่ได้ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับการแก้ไข การบริหารจัดการและการสื่อสารออกไป ไม่นิ่งดูดายต่อปัญหา

พูดถึงการทำงาน 2 ปีที่ผ่านมา ประทับใจสิ่งไหนมากที่สุด แล้วผลสัมฤทธิ์ที่ออกมาตรงกับสิ่งที่คาดหวังไหม

ในรอบ 2 ปี สิ่งที่งดงามที่สุดที่ได้จากกระทรวงพาณิชย์ คือ ข้าราชการกระทรวงพาณิชย์ที่มีคุณภาพมาก คนมีประสิทธิภาพในการทำงาน ความคิด ทัศนคติในการทำงาน งานมีผลสัมฤทธิ์รวดเร็ว คุณภาพของงานดี สังเกตได้จากผลโพลที่ออกมาแต่ละจังหวัด กระทรวงพาณิชย์อยู่อันดับต้นเสมอ และนโยบายที่เราประกาศต่อรัฐสภาก็สัมฤทธิ์ผลทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นนโยบายประกันรายได้เกษตรกร ช่วยเกษตรกรได้ทั้งหมดประมาณเกือบ 8 ล้านครัวเรือนและกำลังเดินหน้าปีที่ 3 ด้านการส่งออก เราสร้างกรอ.พาณิชย์ขึ้นมาเป็นครั้งแรก สามารถผลักดันจนสำเร็จ อันนี้ตลาดต่างประเทศก็ชื่นชม ภาคเอกชนผู้ส่งออก ผู้ประกอบการ SME ต่างๆ ชื่นชม เราเพิ่มสัดส่วนผู้ส่งออกที่เป็น SME เพื่อเปิดโอกาสอย่างเป็นธรรมในการส่งออก การอบรมให้ความรู้พัฒนาปั้นคนรุ่นใหม่ให้สามารถส่งออกได้ นอกจากนี้ มีการผลักดันเรื่องค่าครองชีพ เป็นความงดงามที่รู้สึกได้เมื่องานสัมฤทธิ์ผล สิ่งที่อยากพูดและน่าจะเป็นขวัญและกำลังใจของจุรินทร์อเวนเจอร์ และบุคลากรทั้งหลายที่อยู่ในกระทรวงพาณิชย์ คือ ประชาชนรับรู้และชื่นชมเราเสมอ รวมทั้งรับคำชมจากครอบครัวของคนกระทรวงพาณิชย์เอง

ตำแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีเป็นงานที่หนักมาก มีการใช้ชีวิตกับการทำงานยังไง

การจัดสรรเวลาถือเป็นหน้าที่ ปกติเป็นคนที่จัดสรรแบ่งเวลาได้ดีและเน้นคุณภาพชีวิตมาตลอดอยู่แล้ว คือ การทำงานเราต้องมีการผ่อนคลาย เช่น เสร็จงานแล้วก็นัดเจอเพื่อนฝูงแลกเปลี่ยนความคิดเห็น เราต้องวางแผนการทำงาน จัดสรรเวลาช่วงเวลาไหนทำอะไรอย่างไรแบบไหน วันหยุดเราก็หยุด ไปเที่ยวเราก็เที่ยว เป็นการทำงานภายใต้ Mindset ที่เป็นบวก (Positive Thinking) และจะไม่แบกความเครียดเอาไว้ เพราะว่างานหนักอยู่แล้ว ยิ่งงานต้องรับผิดชอบสูง งานเพื่อประชาชน เพื่อประเทศชาติ เรายิ่งต้องจัดสรรเวลาให้ดี ถ้าสุขภาพไปไม่ได้ งานเราก็ไปไม่ได้ ถ้าเกิดความเครียดมากเกินไป มันก็จะทำให้คุณภาพของงานไม่ดี

มีวิธีผ่อนคลายเวลาทำงานหนักหรือเครียดอย่างไร

อย่างแรก กลับบ้านไปหาสามี (หัวเราะ) สามีเป็นคนซัพพอร์ตและรับฟังที่ดีมาก สามารถให้คำแนะนำอย่างมีประสิทธิภาพ อย่างเรื่องที่เราเล่าให้เขาฟังไปเป็นชั่วโมง เขาก็สามารถให้คำแนะนำเราได้ภายใน 3 คำ เราโชคดีที่มีครอบครัวสนับสนุนในเรื่องของความคิด ทัศนคติ วิทยาการต่างๆ เขาจะค้นคว้าช่วยทำให้เราแบ่งเบาไปค่อนข้างเยอะ อย่างที่สอง คุยกับเพื่อนและทีมงาน เราจะต้องคอยดูแลทีมงาน หากบางครั้งงานมันหนัก เกิดความเครียดและกดดัน ก็จะให้ทีมงานพักและผ่อนคลายแล้วค่อยกลับมาสนุกกับการทำงานต่อ แต่ถ้าเป็นกิจกรรมผ่อนคลายทางด้านกีฬา คือ การยิงปืน เราเป็นนักกีฬายิงปืนสมัครเล่น ถ้าเป็นเรื่องเป็นราวหน่อย มีเวลาก็ลงสนามแข่งขันชิงถ้วย อันนี้เป็นกิจกรรมผ่อนคลาย (หัวเราะ) ส่วนท่านจุรินทร์เป็นคนทำงานไม่หยุดเลย ทีมงานอเวนเจอร์สามารถเปลี่ยนคนได้ แต่ท่านมีคนเดียวไม่สามารถเปลี่ยนได้ ดังนั้นจะคิดเสมอว่า คนที่เหนื่อยมากกว่าเราคือท่านจุรินทร์ เราต้องทำงานให้มีคุณภาพ ประสิทธิภาพได้ดั่งใจ ส่วนที่เหลือคือการบริหารจัดการ ทีมของเราสามารถทำงานแทนกันได้หมด เพราะเราทำงานเป็นทีม เป็นทีม One Stop Service ในทุกภารกิจของท่านรองนายกฯ

สุดท้ายอยากให้ช่วยฝากข้อคิดการทำงาน การใช้ชีวิตเด็กรุ่นใหม่

การไม่มีเวลาเป็นข้ออ้าง สำหรับเราไม่มีอะไรจะเป็นข้ออ้าง ไม่มีอะไรที่ใจเราจะทำแล้วทำไม่ได้ ทัศนคติเป็นคนคิดบวก อะไรก็ตามไม่ใช่เรื่องยาก ไม่มีอะไรที่ทำไม่ได้ เราต้องพยายาม เกินจากความพยายามคือต้องทำให้ได้ ถ้าคนรุ่นใหม่อยากจะพูดเรื่องการจัดสรร คือ ต้องมีทักษะบริหารจัดการ แต่เหนือจากการมีทักษะ คือ การมีวินัยเหนือตนเอง ความพยายามเท่านั้นไม่เพียงพอ ต้องสามารถทำได้ เมื่อใจเราไป ทุกอย่างมันจะไปเอง มันขึ้นอยู่กับใจว่าเราจะหน่วงนำใจเราอย่างไร เพราะฉะนั้นคิดว่าไม่ใช่เรื่องยากในเรื่องบริหารจัดการให้ชีวิตมีบาลานซ์

ยุคนี้มันเป็นยุคทุกคนเป็นซุปเปอร์สตาร์ เป็นยุคที่ยูทูบเบอร์สามารถรายงานข่าวเราได้ ยุคที่ประชาชนมีมือถือเครื่องเดียวก็สามารถรายงานข่าวได้ ดังนั้น การเป็น Image Maker ให้กับท่านจุรินทร์และกระทรวงพาณิชย์ เรามองว่าภารกิจเราคือประมาณนั้น ดังนั้นการที่จะทำภารกิจของท่านจุรินทร์และกระทรวงพาณิชย์ให้เฟื่องฟูได้ก็คือทำให้ประชาชนรับรู้ในสิ่งที่เราทำ สิ่งที่จะเป็นกำลังใจให้ท่านจุรินทร์และข้าราชการกระทรวงพาณิชย์ คือ ประชาชนเข้าใจเราหรือยัง ประชาชนรับรู้หรือไม่ สามารถเข้าถึงใจประชาชนและประชาชนเข้าใจถึงภารกิจการทำงานอันหนักหน่วงของเราหรือไม่อย่างไร อันนี้คือหัวใจการทำงานและกำลังใจของคนปฏิบัติงาน